บางระจัน ภาค 1 เรื่องราวของชาวบ้าน ๑๑ คนที่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยต่างหยิบดาบสู้กับพม่าด้วยหัวใจกล้า ต่อกรกับทัพพม่าที่มีไพร่พลมหาศาล… ปีระกา เดือน ๓ พุทธศักราช ๒๓๐๘ ในเวลานั้น พม่าแบ่งกำลังออกเป็น ๒ เส้นทาง มังมหานรธา ตีจากทิศตะวันตก เนเมียวสีหบดี (พิเศษ สังข์สุวรรณ) ตีไล่จากทางเหนือ หวังขนาบกรุงศรีอยุธยา ครานั้นทัพของเนเมียวต้องล่าช้าไป เนื่องจากติดพันการต่อสู้กับกลุ่มชาวบ้าน ที่รวมตัวกันในนาม “บางระจัน”
เนเมียวสีหบดี แค้นหนักที่กองทัพของตนพ่ายแพ้ถึง ๓ ครั้ง จึงเพิ่มกำลังหนักเข้า ชาวบางระจันรบกันอย่างถวายหัว แต่คราวนั้นพ่อแท่น (ชุมพร เทพพิทักษ์) หัวหน้าของชาวบ้าน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ทุกคนจึงต้องหาผู้นำคนใหม่
ขณะนั้นข่าวการชนะพม่าของบางระจันกระจายไปทั่ว ชาวบ้านมากมายพากันมารวมตัวสู้ บางระจันได้ผู้มีฝีมืออีกสองคนมาช่วยคือ นายดอก (นิรุต สาวสุดชาติ) ครูมวยจากวิเศษไชยชาญ และ นายทองแก้ว (สมนึก แก้ววิจิตร) ครูดาบบ้านโพธิ์ทะเล
ชื่อกลุ่มโจรของ นายจันหนวดเขี้ยว (จรัญ งามดี) เป็นที่กล่าวขานในเวลานั้น บางระจันจึงส่ง นายอิน (วินัย ไกรบุตร) มือแม่นธนู, นายเมือง (อรรถกร สุวรรณราช) คนหนุ่มใจกล้าและพวก เสี่ยงภัยออกจากค่ายไปตาม นายจันยอมมาช่วยบางระจันทันที เมื่อรู้ว่า พระอาจารย์ธรรมโชติ (ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง) ย้ายจากเขานางบวช บ้านเกิดของตนที่วอดวายไปแล้ว มาจำวัดที่บางระจัน นายจันหนวดเขี้ยว เป็นนักรบประเภทยอมหักไม่ยอมงอ ด้วยครั้งหนึ่งตนเคยเสียชีวิตลูกเมียให้กับพม่า
เมื่อได้เป็นผู้นำคนใหม่ จึงเปลี่ยนแปลงบางระจัน ให้ทุกคนมีวินัย และไม่ทำอะไรตามใจตัวเอง ทำให้นายจันไม่เป็นที่ถูกใจของ นายทองเหม็น (บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) ขี้เมาพเนจรที่ชอบขี่ควายแอบออกจากค่าย ไปตีพม่าอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีใครรู้สาเหตุว่า นายทองเหม็นทำอย่างนั้นเพื่ออะไร
เมื่อหยุดจากการรบ ชาวบ้านก็เป็นเพียงชาวบ้าน ความรักของนายเมือง และอีแตงอ่อน (สุนทรี ใหม่ละออ) ลูกสาวพ่อแท่น กำลังก่อตัวขึ้นอย่างงดงาม พ่อแง่แม่งอนตามประสา เช่นเดียวกับนายอินกับ อีสา (บงกช คงมาลัย) เมียรักที่เพิ่งอยู่กินกัน ความกดดันจากสงคราม ทำให้อีสาไม่บอกให้นายอินว่าตนกำลังท้อง ด้วยกลัวผัวจะเป็นกังวล
นายเมือง นายอิน ต้องเสี่ยงภัยกันอีกครั้ง เมื่อต้องเดินทางไปกรุงศรีอยุธยา เพื่อขอปืนใหญ่ แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับการปฏิเสธกลับมา เมื่อนายอินกลับมาแล้วมารู้ทีหลังว่าเมียกำลังท้อง
แล้วนายปลั่ง เพื่อนรักที่ร่วมรบกันมาจนบาดเจ็บพิษไข้ขึ้น ถึงกลับวิกลจริตไป ซ้ำมารู้ว่า ตนกำลังจะมีลูก นึกแค้นพม่าหนัก นัดพาพวกล่องเรือไปตีพม่าถึงในค่าย โดยไม่รู้ว่า พม่าเองก็แอบส่งกำลังมาตีบางระจันเช่นกัน ครั้งนั้นด้วยใจร้อน นายอินพาคนไปตายมากมาย ซ้ำกลับมาค่ายบางระจันก็ถูกตีจนยับเยิน คนตายมากมาย ชาวบ้านก็พากันอพยพหนีไป นายจันท้อใจจะกลับไปเป็นกองโจรเหมือนเดิม หากแต่ได้กำลังใจอย่างไม่คาดคิดจากนายทองเหม็น ขี้เมาที่เป็นอริกันมาตลอด และรู้ว่าแท้จริงแล้ว นายทองเหม็นเอง ก็มีอดีตที่เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าตน
ยามนั้นพม่าได้แต่งตั้งนายกองคนใหม่นามว่า สุกี้ (กฤษณ์ สุวรรณภาพ) เข้าตีบางระจัน ทัพสุกี้ครั้งนี้มีกองปืนใหญ่มาด้วย บางระจันเอาปืนใหญ่เข้าสู้ ทั้งที่ร้าวอย่างไม่มีทางเลือก ทุกคนรู้ชะตากรรมว่า นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายของบ้านบางระจันแล้ว…