จำได้ว่าผมดู Cabin Fever ภาคแรกแค่ภาคเดียวครับ ดูครั้งเดียวเลย สมัยนั้น VCD ยังครองตลาดอยู่ ส่วนภาค 2 กับ 3 ยังไม่ได้ดู เลยออกจะแปลกใจพอสมควรตอนรู้ว่ามีฉบับรีเมคออกมา
ที่แปลกใจคือมันเหมือนๆ กับว่าเราเพิ่งดูภาคต้นฉบับไปเมื่อไม่นานนี้เองนะ นี่รีเมคอีกแล้วเหรอ แต่พอนับนิ้วไล่ดูก็พบว่าภาคแรกทำปี 2002 ส่วนตอนนี้ปี 2016 ปลายๆ เบ็ดเสร็จก็ 14 ปีแล้ว… นี่นานขนาดนี้แล้วหรือนี่ (แล้วความรู้สึก “ชรา” ก็ถามหาโดยพลัน 555)
จริงๆ ก็พอเข้าใจครับกับการเอาเรื่องนี้มารีเมค เพราะหนังก็มีองค์ประกอบครบทั้ง Sex และ Violence ใจก็คิดครับว่าหนังคงเพิ่มดีกรีความสยองลงไปอีกตามสไตล์ และผลก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
ฉบับนี้ก็มาพล็อตเดิมครับ เหล่าวัยรุ่นไปเที่ยวพักผ่อนที่กระท่อมกลางป่า ก่อนจะพบว่ารอบๆ บริเวณนั้นมีเชื้อนรกกินเนื้อคนแพร่กระจายอยู่ พวกเขาก็ติดเชื้อทีละคนครับ แล้วก็ทยอยตายกันไป ที่เหลือก็แค่ลุ้นว่า สรุปจะมีคนรอดมาสักคนไหม
จริงๆ พล็อตมันมาทางเดียวกับ The Evil Dead เหมือนกันนะครับ พนุ่มสาวไปเที่ยวกลางป่า แล้วก็เจอเรื่องสยอง เพียงแต่แทนที่จะเจอผีก็กลายเป็นเจอเชื้อสยองแทน เรียกว่าสูตรคล้ายกัน แต่ปรับเครื่องปรุงหน่อยนั่นเอง
ฉบับนี้ จุดเด่นคือภาพคมชัดครับ อันนี้เป็นข้อได้เปรียบของหนังสมัยใหม่อยู่แล้ว ภาพมันคนมัน HD กว่ากันเยอะ ก็ยอมรับครับว่าภาพถ่ายออกมาได้สวยนะ พวกฉากธรรมชาติป่าเขามันดูสวยงามมากๆ เลย แม้นี่จะเป็นหนังสยอง แต่คนชอบดูสารคดีภาพธรรมชาติอย่างผม ก็รู้สึกชอบภาพป่าไม้เขียวสดที่หนังเรื่องนี้ถ่ายมาเหมือนกัน
ในแง่ความสยอง หนังมาชัดจัดเต็มกว่าของเก่าครับ เรียกว่าของเดิมมันก็แหวะอยู่นะ แต่มาอันนี้หนังแหวะขึ้น เลือดสดๆ เยอะแยะ แต่ถ้าถามว่าสยองไหมก็คงขึ้นกับเส้นของแต่ละคนน่ะครับ หากเป็นคนขวัญอ่อน มันก็น่าจะถือว่าสยองจนเบือนหน้าหนีเหมือนกัน
ส่วนผม ก็รู้สึกว่ามันแหวะเยอะอยู่ครับ แล้วก็หวาดเสียวไม่น้อย จริงๆ มันหวาดเสียวเพราะฤทธิ์ของเชื้อมันน่ากลัวดี ใครติดเชื้อนอกจากเนื้อตัวจะเป็นแผลแหวะแล้ว เนื้อยังหลุดได้อีก ก็น่าขนลุกอยู่ครับ แต่สำหรับคอหนังโหดก็อาจจะเฉยๆ ก็ได้
ตัวหนังก็ดูได้เรื่อยๆ ครับ อย่างที่บอกว่าภาพสวยดี ส่วนเนื้อเรื่องก็เดาได้ไม่ยาก ความสยองแหวะก็ถือว่าไม่น้อย เพียงแต่มันอาจไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก ถ้าเป็นคอหนังแนวนี้อาจจะโอเค (ยกเว้นดูแนวนี้มามากจนเริ่มเบื่อก็เป็นอีกเรื่อง) แต่ในแง่ความตื่นเต้นก็อาจไม่ถึงขั้นไหลมาเทมา
Eli Roth ผู้กำกับภาคแรกมาอำนวยการสร้างให้ในภาคนี้ครับ ซึ่งก็รู้สึกว่าหลังๆ พี่แกจะเวียนวนกับการรีเมคนะ ทั้งเอาหนังเก่ามากำกับใหม่ อย่าง Knock Knock ก็เป็นการเอาหนังเก่าปี 1977 มาทำใหม่ แล้วล่าสุดก็จับงานรีเมค Death Wish ด้วย ส่วนเรื่องนี้พี่ท่านก็มาช่วยสร้าง แล้วปล่อยให้คนอื่นกำกับไป
หนังมีการแอบคารวะ The Shining ฉบับ Stanley Kubrick ด้วยครับ กับฉากตอนต้นๆ ที่กล้องแพนไล่ภาพรถวิ่งไปตามถนน ดนตรีที่เราได้ยินในซีนนั้นก็คือดนตรีเปิดของ The Shining นั่นแหละ
สรุปว่าคอหนังสยองหากอยากลองลิ้มก็ได้ครับ ดูเอาเพลินตามสไตล์หนังแหวะได้ แต่อย่าคาดหวังอะไรมาก โดยรวมๆ แล้วผมยังรู้สึกว่าภาคต้นฉบับทำได้น่ากลัวพอเหมาะและตรงจุดกว่าหน่อยครับ คือไม่ได้แหวะอย่างเดียว แต่มันมีเรื่องอารมณ์ความสลดผสมลงมาด้วย