ทาง WB และ DC ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะทำเวอร์ชั่นการ์ตูนออกมาป้อนตลาดครับ อย่าง Batman นี่ทำออกมาทุกปี บางปีก็มากกว่า 1 ตอน ซึ่งหากมองในแง่คุณภาพแล้ว ก็ถือว่าไม่เลว
และนี่ก็คืออีกหนึ่งผลงานครับ งานนี้จับ Justice League Dark มาขึ้นจอ ซึ่งชื่อก็บอกแล้วครับว่าเป็นสายมืด แต่มืดในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า Justice League กลุ่มนี้ออกแนวชั่วนะครับ แต่หมายถึงพวกเขามีหน้าที่รับมือกับ “ความมืด”
ความมืดก็คือเรื่องเหนือธรรมชาติน่ะครับ ไม่ว่าจะปีศาจ เวทย์มนต์ (ถ้ามองเป็น Marvel ก็ประมาณ Doctor Strange น่ะครับ) ซึ่งสิ่งชั่วร้ายสายนี้ก็มีอยู่บนโลก และมันก็สร้างความปั่นป่วนได้ไม่แพ้มนุษย์, สัตว์ทดลอง หรือสิ่งมีชีวิตต่างดาวแบบที่ Batman กับ Superman ต้องเจอประจำ
หนังเปิดมาก็คือพวก Justice League ปกติต้องเจอกับวายร้ายมนต์ดำครับ พวกเขาก็เลยสู้มันไม่ได้เท่าไร ทำให้พี่แบทต้องไปตามเหล่าฮีโร่สายเวทย์มาฟัดกับมัน
ตัวละครสายเวทย์ที่เราจะได้เจอกันนี่ก็มี จอห์น คอนสแตนติน หมอผีจอมกวนที่โดนเพ่งเล็งทั้งจากนรกและสวรรค์, ซาแทนน่า จอมมายากล, เดดแมน มนุษย์มรณะ, เอทิแกน เดอะ ดีมอน แอนตี้ฮีโร่จากนรก และ สวอมป์ธิง อสูรบึงตัวเขียว
ตัวหนังจัดว่าสนุกกว่าที่คิดครับ ผมชอบที่การเปิดเรื่องมันทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของ Justice League Dark น่ะครับ ประมาณว่าฮีโร่หลักของโลกต่อให้แน่แค่ไหนก็ต้องเจอกับศัตรูที่ไม่ใช่ “ทาง” ของตน
ก็เหมือนคนเรานั่นแหละครับ ไม่มีทางเก่งไปหมดทุกด้านได้หรอก มันต้องมีจุดอ่อนหรือมีปัญหาที่แพ้ทางกันบ้างล่ะ ซึ่งการเจอกับปัญหาแบบนั้นหากยังทู่ซี้สู้ต่อก็อาจแพ้ได้ ดังนั้นทางออกที่เหมาะคือต้องไปหาคนมาช่วย
มองจุดนี้แล้วก็รู้สึกชอบสาระของทีมนี้เหมือนกันครับ มันคือการเอา “ด้านมืด” มานำเสนอให้เห็นว่าด้านมืดนั้นไม่ได้แปลว่าร้ายเสมอไป บางทีการรับมือกับจอมวายร้าย เราก็ต้องรู้จักความร้ายกาจที่ว่านั้น เพื่อที่จะได้เห็นจุดแข็งจุดอ่อนในการเอาชนะ ขณะเดียวกันเราก็ต้องระวังไม่ให้เราหลงไปกับ “ด้านมืด” นั้น
การนำเสนอถือว่าทำได้ดีครับ มีความรุนแรงค่อนข้างมากจนได้เรต R เลยทำให้รสชาติมันถึงใจ สนุกแบบดาร์กๆ ดีครับ จนผมบอกเลยว่าอยากแนะนำให้แฟนๆ DC ได้ลองลิ้ม เพราะของเขาสนุกจริง อร่อยจริง (สำหรับการ์ตูนน่ะครับ แต่จะเอาไปเทียบกับหนังใหญ่คงไม่ได้)