The Mother เป็นเรื่องราวของมือสังหารสาว ที่ผ่านการฝึกฝนสุดทรหดจากกองทัพมาอย่างช่ำชอง แต่เธอได้ตัดสินใจออกจากแหล่งกบดานที่ซ่อนตัวมานับสิบปี เพื่อมาปกป้องลูกสาวของตัวเองที่ไม่เคยพบหน้าและมีสายใยสัมพันธ์กันมาก่อน แต่ว่าลูกสาวกำลังตกอยู่ในอันตรายจากเหล่าอาชญากรสุดเหี้ยมโหดที่ไล่ตามมาล้างแค้นเธอ เธอจึงมีภารกิจเดียวคือ..พิทักษ์ลูกสาวให้รอดพ้น
นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับหญิง “นิกิ คาโร” ที่ถือว่าเป็นงานล้างตาและล้างใจจาก Mulan ที่กลายเป็นชิ้นงานที่เธอถูกวิจารณ์เยอะไปสักหน่อย แน่นอนว่าจุดเด่นของผู้กำกับผู้หญิงนี้ถืองานสร้างที่พยายามผลักดันและขับความแกร่งให้กับตัวละครนำหญิงที่เธอมันจะทำได้สำเร็จอยู่เสมอ ๆ นับตั้งแต่ผลงานแจ้งเกิดของเธอใน Whale Rider เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
แม้ว่าใน The Mother จะเป็นเพียงหนังแอคชั่นดราม่าธรรมดา ๆ ที่ดูผิวเผินแล้วมันก็ไม่ค่อยจะต่างจากเฟรนไชส์หนังตระกูล Jason Bourne อะไรทำนองนั้น เพียงแต่ในครั้งนี้ปรับตัวละครหลักเป็นมือสังหารหญิงแทน โทนและกลิ่นของหนังคล้าย ๆ กับหนังบอร์น แต่โครงสร้างและโครงเรื่องของหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้หนักแน่นได้เทียบเท่า เพราะบทหนังก็ยังเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเดิม ๆ
The Mother ดูทรงแล้วก็เหมือนว่าเน็ตฟลิกซ์อยากจะสร้างหนังแอคชั่นสไตล์ Extraction ที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ของพวกเขา แต่ปรับจากฮีโร่ชายมาเป็นฮีโร่หญิงแทน ลีลาคล้าย ๆ กันแต่ยังไม่เข้มข้นและมีชั้นเชิงได้ถึงระดับนั้น หนังใช้ทีมนักเขียนบทถึง 3 คน ที่ถือว่าเป็นท็อป ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “ไมชา กรีน” (จากซีรีส์ Lovecraft Country), “อันเดรีย เบอร์ลอฟ” (จาก Straight Outta Compton) และ “ปีเตอร์ เคร็ก” (จาก The Batman) แต่ยังน่าเสียดายไปสักหน่อย ที่บทหนังน่าจัดจ้านได้มากกว่านี้
แต่จังหวะสูตรสำเร็จของหนัง ก็ถือว่ายังใช้ได้กับ The Mother อยู่ การเล่าเรื่องธรรมดา ๆ ก็สามารถเร่งเร้าให้หนังดูได้เพลินดีได้ในระดับที่น่าพอใจ หนังมีตัวละครที่ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แม้ว่าหนังจะยังไม่สามารถเกลี่ยการให้ความสำคัญและมิติของคาแรกเตอร์ได้แค่ผิวเผินไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้บั่นทอนอารมณ์และบรรยากาศของหนังไปสักเท่าไหร่
แน่นอนว่า เจนนิเฟอร์ โลเปซ รับหน้าที่เป็นนางแบกให้กับหนังเรื่องนี้เต็ม ๆ เราอาจจะคุ้นชินกับเธอในหนังโรแมนติกขบขันมากกว่า แต่การกลับมาสู่จังหวะของหนังดราม่าของเธอ ก็ทำให้ชวนคิดถึงและยิ่งตอกย้ำทักษะการแสดงของเธอได้ชัด ๆ ว่า เธอก็คือนักแสดงที่ดีคนหนึ่งเช่นกัน อาจจะสักพักใหญ่ ๆ แล้วที่เจโลรับบทดราม่าแอคชั่นแนว ๆ นี้ แต่เธอก็สามารถรับมือกับมันเอาไว้ได้อย่างน่าพอใจทีเดียว
นั่นก็พลอยทำให้นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ที่ได้ตัวเด็ด ๆ มาค่อนข้างเยอะ แต่ใส่มาแค่เป็นไม้ประดับเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น “โจเซฟ ไฟนส์”, “โอมาริ ฮาร์ดวิค” หรือ “กาเอล การ์เซีย เบร์นัล” ได้การหยอดเข้ามาแบบไม่คุ้มราคาการเป็นนักแสดงฝีมือดีสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังนับว่าพวกเขาเข้ามาเป็นส่วนเสริมที่น่าพึงพอใจ ช่วยทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปได้อีกหน่อย
เอาเป็นว่าโดยภาพรวมนั้น The Mother เป็นหนังที่ขับพลังความเป็นตัวมารดาได้อย่างน่าพอใจ ฉากบู๊ ฉากไล่ล่า อาจจะไม่ได้เด็ดดวงมาก แต่ยอมรับว่าจังหวะของหนังยังค่อนข้างดี บนพื้นฐานของความเป็นสูตรสำเร็จไปสักหน่อย แต่ก็ยังเป็นหนังที่ดูได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ ขณะที่เจโลก็มอบการแสดงที่น่าพอใจเป็นอย่างดี อาจจะเพราะว่าบทเรื่องนี้ค่อนข้างส่งเสริมตัวเธอเป็นอย่างดีด้วย ทำให้เธอได้มีโอกาสปล่อยของและปล่อยพลังทางการแสดงออกมาได้อีกครั้งในหนังเรื่องนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เยอะแยะอะไรก็ตาม (แต่เรื่องนี้เธอเท่มากจริง ๆ)