หนังแนวระทึกขวัญ เอาชีวิตรอด ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Gerne ที่มักจะมีพลอตแปลกๆ และลูกเล่นต่างๆ ที่พิเศษในแต่ละเรื่อง ส่วนจะสนุก หรือตื่นเต้นมากน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับว่าผู้กำกับแต่ละเรื่องจะสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีมากน้อยแค่ไหน และนักแสดงสามารถแบกหนังได้แค่ไหน
The Wall ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังระทึกขวัญ เอาชีวิตรอด ที่มาพร้อมพลอตเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ กับหนังแนวนี้ ด้วยความที่หนังว่าด้วยเรื่องราวของนายทหารอเมริกัน ที่โดนผลซุ่มยิงของกลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวอีรัก ยิงเข้าจนบาดเจ็บ เขาได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณกำแพงอิฐเล็กๆ เพื่อใช้ป้องกันตัว เพราะหากเขาออกไปเขาก็จะกลับเป็นเป้าของ สไนเปอร์ผู้นี้อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน สไนเปอร์ ก็ได้จับสัญญาณวิทยุของเขาได้ สองทหารต่างสัญชาติ จึงต้องสื่อสาร เจรจากันผ่านวิทยุสื่อสาร โดยทั้งคู่ต่างใช้สงครามจิตวิทยาในการหลอกล่อ เพื่อหาตำแหน่งที่ซ่อนของอีกฝ่าย และสังหาร
หนังนำแสดงโดย แอร่อน เทย์เลอร์ จอห์นสัน(Avengers Age of Ultron) และ จอห์น ซีน่า(Bumble Bee) ซึ่งบทของรายหลังนั้นถือว่าเป็นบทสมทบที่มีบทบาทในเรื่องเพียงประปราย แต่ตัวละครสำคัญของหนังคือตัวละครทหารหนุ่มที่รับบทโดย เทย์เลอร์ จอห์นสัน ซึ่งตลอดเวลากว่า 2 ใน 3 ของหนัง เราจะได้เห็นการแสดงของเขาแบบเต็มเดียว และเป็นการแสดงแบบเดี่ยว ล้วนๆ ก็ว่าได้ เพราะหนังจะถ่ายทอดสถานการณ์ที่มีเพียงตัวละครทหาร 1 คน และกำแพงอิฐเล็กๆ เท่านั้น ด้านผู้ก่อการร้ายมีบทบาทเพียงแค่เสียงในวิทยุเท่านั้น
ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมการแสดงของ เทย์เลอร์ จอห์นสัน ที่ถ่ายทอดความลุ้นระทึกในหนังออกมาได้ดีเยี่ยม เมื่อดูการแสดงของเขาในหนังเรื่องนี้ ก็ชวนให้นึกถึงการแสดงเดี่ยวๆ ของ ทอม ฮาร์ดี ในหนังเรื่อง Locke ที่ตลอดทั้งเรื่องมีเพียงการแสดงของเขา ภายในรถเท่านั้น การแสดงของ เทย์เลอร์ จอห์นสัน ในเรื่องนี้ จะเน้นไปที่การเอาชีวิตรอด ความหวาดกลัว และความกล้าหาญ ตามสไตล์ของทหารในหนังสงคราม ที่ทำให้เราดูแล้วนอกจากจะได้ลุ้นระทึกจากการเอาชีวิตรอดแล้ว ยังได้ตื่นเต้นกับวิธีการรับมือกับสถานการณ์ และวางแผนการรบของตัวละครอีกด้วย ส่วนบทของ จอห์น ซีน่า นั้น ก็สามารถมาร่วมสร้างสีสัน ความสนุกให้หนังได้ไม่น้อย เสียดายที่บทของเขามาไวไปไว ไปหน่อย
ความสนุกของหนังอาจไม่ใช่การสร้างสถานการณ์การเอาชีวิตรอดสุดกดดันของหนัง แต่ความสนุกของหนังเรื่องนี้คือการได้ดูสงครามจิตวิทยาของตัวเอก และตัวร้ายของเรื่องที่ตลอดทั้งเรื่องเราแทบจะไม่เห็นหน้า บทหนังจะเน้นถ่ายทอดให้ฝั่งทหารอิรัก ที่เป็นตัวร้ายของเรื่องฉลาด และเป็นคนคุมเกมของหนังทั้งหมด ในขณะที่ฝั่งหทารอเมริกันในเรื่องกลับเป็นเพียงฝ่ายรับ และถูกกดดัน แต่อย่างไรก็ตาม หนังก็สามารถถ่ายทอดจังหวะรุก และรับของทั้งสองฝ่ายได้อย่างน่าตื่นเต้น ลุ้นระทึกแบบกำลังดี
เสียดายที่ความพยายาม หยิบหนังสงคราม มาผสมกับหนังเอาชีวิตรอดของ The Wall ยังทำออกมาได้ไม่สุดทางเท่าที่ควร หนังทำออกมาสนุกแบบครึ่งๆ กลางๆ สนุกแบบหนังจิตวิทยา และการแสดงของนักแสดงนำ ที่แบกหนังไว้ทั้งเรื่อง แต่ด้านความเป็นหนังเอาชีวิตรอด หนังกลับทำออกมาได้ไม่สุดเท่าที่หนังแนวนี้ควรจะเป็น
โดยรวม The Wall ถือว่าเป็นหนังเอาชีวิตรอด ปนสงคราม ที่ทำออกมาได้ลุ้นระทึกแบบกำลังดี โดยเฉพาะความเป็นสงครามจิตวิยา ที่น่าติดตาม ชวนลุ้นทั้งเรื่อง แม้หนังจะไปไม่สุดในด้านความเป็นหนังเอาชีวิตรอด แต่ก็ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ได้ดี แถมยังผลงานที่ยกระดับบทบาทการแสดงของ แอร่อน เทย์เลอร์ จอห์นสัน ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก