ในปี 1967 คริส เทย์เลอร์ (ชาร์ลี ชีน) ทหารเกณฑ์จากกองทัพสหรัฐฯ เดินทางไปยังเวียดนามใต้ เพื่อประจำการที่หน่วยรบ ทหารราบที่ 25 ใกล้กับชายแดนประเทศกัมพูชา กองทหารหน่วยนี้นำโดย ร้อยโท วูล์ฟ (มาร์ค มอสเซส) ผู้ทั้งอ่อนวัยและอ่อนประสบการณ์ ทหารในหน่วยส่วนใหญ่จึงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันติดตามระหว่างนายจ่าสองนาย คือ จ่าโรเบิร์ต “บ็อบ” บาร์นส์ (ทอม เบเรนเกอร์) และ จ่าอีเลียส (วิลเลม เดโฟ) ที่มีประสบการณ์ในสนามรบมากกว่า มีวุฒิภาวะมากกว่า และเข้มแข็งเด็ดขาดมากกว่าหลายขุม เทย์เลอร์ ถูกดึงเข้าทีมทำภารกิจซุ่มโจมตีกองทัพเวียดนามเหนือกับ บาร์นส์ อีเลียส และเพื่อนทหารในคืนนั้นทันที แต่ช่วงเวลาก่อนปฏิบัติภารกิจ ฝั่งทหารเวียดนามกลับไหวตัวทัน และเปิดการโจมตีทหารอเมริกันขณะหลับใหลก่อน เป็นเหตุให้เพื่อนทหารของ เทย์เลอร์ เสียชีวิต ในขณะที่ตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน หลังกลับจากรักษาตัวที่โรงพยาบาล เทย์เลอร์ เริ่มสนิทสนมกับทีมทหารของ อีเลียส แต่ยังรู้สึกห่างเหินกับ บาร์นส์ รวมถึงทีมนายทหารหัวแข็งของเขา
ระหว่างภารกิจลาดตระเวนครั้งแรก นายทหารสามนายพลาดเหยียบกับระเบิดและถูกลอบโจมตีเสียชีวิต ก่อนหน่วยทหารที่กำลังคับแค้นใจนั้นยิ่งรู้สึกโกรธแค้นขึ้นไปอีก เมื่อพบว่าหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นคนส่งเสบียงและอาวุธให้กับทหารเวียดนามเหนือ บาร์นส์ ส่งนายทหาร เลิร์นเนอร์ (จอห์นนี่ เดปป์) ที่พูดภาษาเวียดนามได้ ไปสอบปากคำหัวหน้าหมู่บ้านว่าช่วยเหลือทหารเวียดนามเหนือมานานเท่าไรแล้ว ขณะเดียวกัน บาร์นส์ ก็ลั่นกระสุนใส่ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านที่ตะโกนเสียงดังใส่เขาอย่างเลือดเย็น ทั้งยังขู่ฆ่าลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้านอีกคนด้วย ตอนนั้นเอง อีเลียส เดินทางมาถึงแล้วมีเรื่องชกต่อยกับ บาร์นส ทันที เพราะคิดว่า บาร์นส์ ทำเหตุรุนแรงเกินกว่าหน้าที่ ก่อน วูล์ฟ จะตามมาถึงแล้วออกคำสั่งทำลายเสบียงและเผาหมู่บ้านทิ้ง อีกด้านหนึ่ง เทย์เลอร์ กำลังรีบเข้าไปหยุดทหารในทีม บาร์นส์ ไม่ให้ข่มขืนหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายในหมู่บ้าน
หลังจากทุกคนกลับมายังฐานที่พัก ร้อยเอกแฮร์ริส (เดล ดาย) มีประกาศด่วนว่า หากมีการฆ่านอกเหนือคำสั่งอีกจะพาตัวการไปขึ้นศาลอย่างแน่นอน เป็นเหตุให้ บาร์นส์ รู้สึกหวั่นอยู่ในใจว่า อีเลียส จะฟ้องและเป็นพยานในเหตุร้ายที่เขาก่อขึ้น ในการลาดตระเวนครั้งถัดไป หน่วยทหารราบเสียศูนย์อีกครั้งเมื่อถูกลอบโจมตี แถม วูล์ฟ ยังสิ่งคำสั่งผิดพลาดให้โจมตีหน่วยตัวเอง อีเลียส รีบพา เทย์เลอร์ และนายทหารคนอื่นหลบหนีจากความวุ่นวาย ก่อน บาร์นส์ จะออกคำสั่งให้ทีมของเขาออกตามหาทีมของ อีเลียส แต่เมื่อ บาร์นส์ พบว่า อีเลียส อยู่คนเดียว เขาตัดสินใจยิง อีเลียส ทันที แล้วกลับมาบอกข่าวกับ เทย์เลอร์ ว่าเพื่อนของพวกเขาถูกฝั่งเวียดนามเหนือฆ่าทิ้ง ในตอนนั้นทีมค้นหาทางเฮลิคอปเตอร์ มองเห็น อีเลียส วิ่งหนีเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของทหารเวียดนามเหนือ แต่เพราะโดน บาร์นส์ ยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาจึงไม่อาจมีแรงเอาชีวิตรอดออกมาได้… พอกลับมายังฐานที่พัก เทย์เลอร์ ที่เชื่อว่า บาร์นส์ เป้นคนลงมือฆ่า อีเลียส เรียกสมาชิกในทีมคุยเกี่ยวกับเรื่องไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้น แต่ บาร์นส์ กลับพังประตูเข้ามาทำกร่างและใช้มีดสั้นกรีดใบหน้าของ เทย์เลอร์ เพื่อข่มขู่แล้วจากไป
ในวันเดียวกันกองทหารถูกส่งไปคุ้มกันแนวหน้าในสนามรบอีกครั้งเพื่อรับมือกับการปะทะที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้น และในคืนนั้นเอง เวียดนามเหนือก็ลงมือบุกครั้งใหญ่ขนาดแนวคุ้มกันถูกทำลายแทบไม่เหลือชิ้นดี ทั้งยังคร่าชีวิตทหารอเมริกันเกินกว่าครึ่ง แต่ เทย์เลอร์ ยังไม่ยอมแพ้และยืนหยัดต่อสู้กับฝ่ายศัตรูให้ถึงที่สุด แม้ฐานสั่งการของพวกเขาจะป่นปี้ด้วยระเบิดพลีชีพของคู่อริ เทย์เลอร์ เสียสละออกจากหลุมหลบภัย วิ่งล่อเป้าให้ทหารเวียดนามโจมตีตัวเองแทนเพื่อน แต่กลับไปเจอ บาร์นส์ ที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียสติเกือบจะเป็นบ้า บาร์นส์ ตั้งใจอาศัยจังหวะวุ่นวายฆ่าปิดปาก เทย์เลอร์ เหมือนกับที่เคยทำไว้กับ อีเลียส แต่เคราะห์ดีที่ทั้งสองสลบไป เพราะแรงกระแทกจากการโจมตีทางอากาศ วันรุ่งขึ้น เทย์เลอร์ ได้สติกลับคืนมา เขาลุกขึ้นคว้าไรเฟิลของศัตรูก่อนพบ บาร์นส์ ที่ออกคำสั่งให้เขาไปเรียกทีมแพทย์มารักษาตัวเอง แต่ เทย์เลอร์ ไม่ยอมทำตามคำสั่งนั้น บาร์นส์ จึงท้าทายให้ฆ่าเขาทิ้งแทน และนั่นเป็นคำสั่งเดียวที่ เทย์เลอร์ ยอมเชื่อฟัง… หลังเรื่องวุ่นวายจบลง เทย์เลอร์ ได้พบกับ ฟรานซิส (โครีย์ โกลเวอร์) เพื่อนของเขาอีกครั้ง ฟราสซิส แทงตัวเองเข้าที่ขา แล้วบอกกับ เทย์เลอร์ ว่าพวกเขาจะได้กลับบ้านสักทีเพราะได้รับบาดเจ็บซ้ำ ๆ สองครั้ง เมื่อได้กลับบ้านสมใจ เทย์เลอร์ น้ำตารื้นตอนที่ได้มองลงมาจากเฮลิคอปเตอร์แล้วเห็นศพทหารจำนวนมหาศาล ภายในหัวของเขาได้แต่คิดว่า “แม้สงครามจะสิ้นสุดแล้วสำหรับเขา แต่ทุกเหตุการณ์จะฝังลึกอยู่ในใจของเขาไปตลอดชีวิต”