Train-Spotting กิจกรรมจับจ้องรถไฟเคลื่อนผ่านไปมา ในมุมคนทั่วไปคงมองว่าเป็นงานอดิเรกที่โคตรไร้สาระ แต่สำหรับบุคคลกำลังมึนเมาเสพยา นั่นคือช่วงเวลาอันสุดมหัศจรรย์เหนือจินตนาการ (ผมก็อธิบายไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร) ก็เหมือนภาพยนตร์เรื่องนี้อาจทำให้คุณรู้สึกโคตรเสียเวลารับชม แต่สะท้อนวัฒนธรรม ค่านิยม และจิตวิญญาณชนชาวอังกฤษยุคสมัยนั้นออกมาได้อย่างตราตรึง
คำอธิบายชื่อหนัง Trainspotting ที่เกริ่นไว้ย่อหน้าแรก ไม่ได้มาจากเนื้อหาในหนังเลยนะครับ เป็นสิ่งปรากฎอยู่ในต้นฉบับนวนิยายแต่ถูกตัดออกไป ใครมีโอกาสรับชมภาคสอง T2 Trainspotting (2017) จะมีฉากย้อนอดีตที่ Renton กับ Begbie พบเจอชายแก่ขี้เมาแถวๆสถานีรถไฟ Leith Central สนทนากันไปมาพบว่าบุคคลนั้นคือพ่อแท้ๆของ Begbie สอบถามว่า
“What’re you up to, lads, eh? Trainspotting? In Leith Central?”
จะว่าไปการนั่งดูรถไฟ ก็ไม่ต่างอะไรจากกิจกรรมดูนก ตกปลา ท่องอินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่รับชมภาพยนตร์ กล่าวคือเป็นการใช้เวลาว่างให้หมดสิ้นไปกับการกระทำอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องมีประโยชน์ หรือสร้างสรรค์ แค่ผู้กระทำสิ่งนั้นก่อเกิดความพึงพอใจสูงสุดก็เพียงพอแล้ว … ไม่ใช่รึ?
ซึ่งในบริบทของหนัง สะท้อนพฤติกรรมกลุ่มตัวละคร วันๆใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย เมาเหล้า เสพยา ลักขโมย ร่วมรักหญิงสาว ไม่ต่างจากกิจกรรม Train-Spotting นั่นทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจดูไร้สาระ แต่เชื่อเถอะว่าย่อมต้องมีบุคคลเห็นประโยชน์ทรงคุณค่า แฝงซ่อนเร้นอยู่ไม่มากก็น้อย!
มีอีกแนวความคิดที่น่าสนใจของ Trainspotting ขณะผู้เสพกำลังฉีดยาเข้ากระแส จักต้องบีบรัดแขนจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมา นั่นแลดูเหมือนรางรถไฟ และมีคำเรียกว่า ‘Track Masks’