บลิทซ์ ล่าโคตรคลั่งล้าง สน. จัดจำหน่ายโดย UHE กำหนดฉายหนัง 22 กันยายน 2554 เรื่องย่อหนัง Blitz ความระทึกขวัญเกิดขึ้นในลอนดอนยุคปัจจุบัน เมื่อตำรวจยุคใหม่กลุ่มหนึ่ง ที่ปฏิบัติหน้างานท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรมต้องเผชิญความท้าทายในอาชีพ เรื่องราวอันห้าวหาญและดิบเถื่อนของความคลุมเครือทางจริยธรรมคนนอก และความเสียสละของตำรวจในการปราบปรามอาชญากรรมเมืองผู้ดี ตำรวจลอนดอนผู้แข็งกร้าว เลือดร้อน และนอกคอก “แบรนต์” (เจสัน สเตแธม) สั่งสอนแก๊งเด็กวัยรุ่นไม่ให้งัดรถคนอื่นและขู่ฆ่าเด็กเหล่านั้น แต่นักข่าวอาชญากรรมจอมโกงที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับแบรนต์ “ฮาโรลด์ ดันลอป” (เดวิด มอร์ริสซี่) กลับเล่นข่าวไปอีกทางว่าเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นคือเหยื่อจนทำให้แบรนต์ถูกส่งไปพบจิตแพทย์ตำรวจ “ดร.เลนเนิร์ด” (บิล แชมเปี้ยน) แบรนต์หายใจเข้าออกเป็นงานซึ่งกำลังถึงจุดวิกฤติ “ตำรวจหญิงฟอลส์” (ซาเว แอชตัน) อดีตตำรวจยาเสพติดนอกเครื่องแบบที่เพิ่งออกจากสถานบำบัดก็รู้สึกถึงความกดดันเช่นกัน แถมเธอยังสอบตกยศจ่า จึงมาหาเพื่อนและที่ปรึกษาอย่างแบรนต์ “โรเบิร์ท” (มาร์ค ไรแลนซ์) เจ้านายและครูของแบรนต์ เพิ่งเสียภรรยาไปจึงหันมาพึ่งเพื่อนแท้อย่างแบรนต์ หลังงานฌาปนกิจศพ ทั้งคู่ไประบายความโศกเศร้าที่ผับแห่งหนึ่งและพบว่าเถ้ากระดูกของภรรยาโรเวิร์ทถูกขโมยไป ชีวิตของตำรวจลอนดอนเหล่านี้ไม่เคยน่าเบื่อ และมันกำลังถึงจุดวิกฤติเมื่อฆาตกรโรคจิตเริ่มออกอาละวาดไล่ฆ่าตำรวจทีละคน เริ่มต้นด้วยตำรวจหญิง “แซนดรา เบตส์” (เอลลี่ แฟร์แมน) ที่ถูกยิงเผาขนขณะอยู่เวรกลางคืนโดยคนร้ายสวมเสื้อมีฮู้ด พอร์เตอร์ แนช (แพดดี้ แคสซิดีน) นายตำรวจที่ต้องต่อสู้กับระบบเพราะความเป็นเกย์อย่างเปิดเผย ถูกย้ายจากพื้นที่เวสต์ลอนดอนเพื่อมาตรวจสอบเหตุฆาตกรรมดังกล่าว เขาได้รับการต้อนรับด้วยข้อความบนผนังห้องน้ำว่า “พอร์เตอร์ แนช อมนกเขา” ฟอลส์พยายามปรับปรุงตัว “เมทัล” (สตีเฟ่น ฮาร์วู้ด บราวน์) เด็กมีปัญหาที่ดูแลเธอหลังออกจากสถานบำบัด เด็กคนนี้มาขอให้เธอช่วยเมื่อคิดว่าตัวเองกับพวกฆ่าผู้ชายเอเชียคนหนึ่ง ฟอลส์ขอให้แบรนต์ช่วยดูว่าผู้ชายคนนั้นตายหรือเปล่าและเมทัลตกเป็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่ แบรนต์พาเธอไปหาตำรวจบริกซ์ตันชื่อ “สโตกซ์” (ลุค อีแวนส์ดันลอป) ได้รับโทรศัพท์จากชายนิรนามที่เสนอความดังให้เขาด้วยการให้ข้อมูลเหตุฆาตกรรมตำรวจที่เกิดขึ้น ซึ่งปรากฎว่าชายนิรนามผู้นี้คือ “แบรี่ ไวซ์” (เอเดน จิลเลน) ซึ่งเป็นฆาตกร ไวซ์ถามดันลอปว่าเขาชอบเลขอะไรระหว่าง “7 กับ 8” ซึ่งดันลอปตอบขำๆ ว่าเลข 8 โดยมารู้ทีหลังว่านั่นคือจำนวนเหยื่อที่ไวซ์ตั้งเป้าสังหาร ไวซ์วางโทรศัพท์และยิงเหยื่อตำรวจรายที่สองกลางวันแสกๆ แบรนต์และแนชพบกันตัวต่อตัวครั้งแรก แม้จะมีพื้นเพที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งคู่มีเป้าหมายร่วมกัน นั่นคือการตามล่าตัวฆาตกร แบรนต์ไปหา “แรดเนอร์” (เน็ด เดนเนไฮ) หัวขโมยที่กำลังต้องการเงินเพื่อหาเบาะแสที่ยิมพีค็อค แบรนต์ตลบหลัง “โบเว่น” แล้วเข้าไปตามหาเบาะแสในยิมพีค็อคได้แบบฟรีๆ แบรนต์รู้สึกว่าความกดดันในงานเพิ่มสูงขึ้น จึงไปหาแนชที่อพาร์ทเมนต์และยอมรับว่าเขาเคารพแนชในฐานะตำรวจคนหนึ่งถึงแม้ว่าแนชจะเป็นเกย์ แบรนต์เปิดใจว่าเขากำลังจะบ้าตาย ส่วนแนชก็เล่าความลับให้แบรนต์ฟังว่าเขาเองก็เคยปราอทแตกกับคดีผู้ร้ายข่มขืนเด็กเช่นกัน เช้าวันรุ่งขึ้น แบรนต์ไปหาแนชที่อพาร์ทเมนท์ และเดินทางไปที่แฟลตของผู้ต้องสงสัย แบรี่ ไวซ์ ด้วยกัน พวกเขาค้นห้องไวซ์แต่ไม่พบอะไร แบรนต์คุ้นหน้าไวซ์และนึกได้ว่าเคยจับเขาที่โรงบิลเลียต แล้วพาส่งโรงพยาบาลเพราะไวซ์ขัดขืนการจับกุม แบรนต์สังหรณ์ว่าต้องมีอะไรผิดปกติ แต่ไม่แน่ใจว่าอย่างไวซ์จะฆ่าคนได้ เหยื่อตำรวจรายต่อไปของไวซ์คือโรเบิร์ท เลือดกระจายเต็มห้องเมื่อไวซ์ลงมือด้วยค้อน หลังลงมือเสร็จ ไวซ์เกิดทีวีในห้องของโรเบิร์ทดูอย่างฝจเย็นแล้วขโมยชุดตำรวจเก่าพร้อมสมุดติดต่อของเขาไป ก่อนจุดไฟเผาอพาร์ทเมนท์ของโรเบิร์ททิ้ง ไวซ์โทรบอกข่าวดันลอปและบอกว่าฉายาของเขาคือ “บลิตซ์” ซึ่งมาจากคำว่ามา “บลิตซ์ครีก” (ภาษาเยอรมันแปลว่า ‘สงครามสายฟ้าแลบ’) แนชบอกแบรนต์ว่า โรเบิร์ท เพื่อนเก่าของเขาคือเหยื่อรายล่าสุดของไวซ์ และดันลอปมีข่าวนี้ในมือ แรดเนอร์ตามไวซ์ไปยังที่จอดรถเปลี่ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งไวซ์ใช้จอดรถที่มีหลักฐานสำคัญอยู่ภายใน แรดเนอร์โทรหาดันลอปเสนอว่าเขาขอแลกชื่อฆาตกรและ “ของแถม” กับเงิน 50,000 ปอนด์ ฟอลส์ไปหาสโตกซ์ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าเมทัลตกเป็นผู้สงสัยในคดีฆาตกรรมชายเอเชีย แต่สโตกซ์สามารถกลบเรื่องนี้ได้ และขอให้ฟอลส์มาดื่มกับเขาอีกครั้ง กองกำลังตำรวจนำโดยแนช รวมถึงแบรนต์ ออกล่าตัวฆาตกร แต่ไวซ์ฉลาดและปกปิดร่องรอยของตนเองเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ดันลอปไปหาแรดเนอร์เพื่อดูของแถมในรถของไวซ์ ซึ่งไวซ์จับตาดูอยู่ ดันลอปนำเงินไปให้แรดเนอร์ที่บาร์แห่งหนึ่ง แต่แรดเนอร์ถูกไวซ์ฆ่าตายขณะเข้าไปนับเงินในห้องน้ำ แบรนต์กับแนชเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ และสอบสวนดันลอปที่บอกตำแหน่งที่จอดรถของไวซ์ แบรนต์และแนชพยายามเข้าไปดูฟุตเตจกล้องวงจรปิด แต่ปรากฎว่ามันไม่ได้บันทึกภาพอะไรมาหลายเดือนแล้ว ต่อมา ฟอลส์และสโตกซ์ออกไปดื่มด้วยกัน โดยมีไวซ์เฝ้าดูอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน กลับมาที่สถานี ด้วยความช่วยเหลือจากตำรวจหญิงทำให้แบรนต์แน่ใจในสิ่งที่สงสัยว่าไวซ์ใช้คอมพิวเตอร์ตำรวจและเป้าหมายของไวซ์คือตัวเขาเองที่เคยจับไวซ์ เหยื่อรายต่อไปของไวซ์คือฟอลส์ แบรนต์ออกไปหาฟอลส์ที่ห้องพักทันทีพร้อมขอกำลังเสริม ฟอลส์ทิ้งสโตกซ์ไว้นอกห้องพัก เพราะเขาเข้ามาหาเธอไม่ได้ และเธอก็หากุญแจไม่เจอ ไวซ์จู่โจมเธอด้วยค้อนจนหมดสติไป ไวซ์พร้อมจะสังหารฟอลส์อย่างเลือดเย็น แต่เมทัลบุกเข้ามาช่วยชีวิตเธอไว้ได้ทัน ไวซ์กำจัดเมทัลด้วยการหักคอ แต่ก่อนที่เขาจะหันกลับมาจัดการฟอลซ์ ก็ได้ยินเสียงไซเรนของรถตำรวจเสียก่อน จึงรีบหนีออกไปในความมืด ไวซ์ย้อมใจด้วยวอดก้าและอะดรีนาลินและไปซ่อนตัวที่โรงแรมเบย์วอเตอร์ แบรนต์ดูแลฟอลส์หลังฟื้นจากยากล่อมประสาท จากนั้นเขาและแนชก็ไปตามหาไวซ์ที่ห้องพักแต่ไม่พบใคร พวกเขาเผยแพร่รูปไวซ์ให้สื่อและตำรวจจนได้เบาะแสว่าเขากบดานอยู่ที่โรงแรม กองกำลังตำรวจบุกจับไวซ์แต่เขาหนีไปได้ ทำให้แบรนต์ต้องไล่ตามเขาไปบนถนนเวสต์ลอนดอน ก่อนต้อนเขาจนมุมที่สวนรถไฟใกล้สถานีตำรวจแพดดิงตันที่เคยจับไวซ์เมื่อครั้งก่อน เมื่อเผชิญหน้ากัน ไวซ์ร้องขอทนาย แซนด์วิช และขออัพเดทสถานะบนเฟซบุค! แม้ร่องรอยต่างๆ จะชี้ว่าไวซ์คือฆาตกร แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ทางนิติเวชที่ชัดเจน แบรนต์และแนชรู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะจัดการกับไวซ์ ก่อนจำต้องปล่อยตัวเขาไป แบรนต์เสนอว่าไม่ต้องสนใจกฎหมาย แต่แนชไม่ยอม แบรนต์สอบสวนไวซ์เพียงลำพัง และระลึกถึงเหตุการณ์ที่โรงบิลเลียด ว่าเขาทำให้ไวซ์อับอายและส่งเขาเข้าโรงพยาบาลยังไง ความเศร้าเสียใจจากการตายของเมทัลและความหวาดกลัวบลิตซ์ ทำให้ฟอลส์กลับไปเสพยาอีก สโตกซ์ได้ข่าวว่ามีตำรวจหญิงซื้อยาจึงโทรหาแบรนต์และไปหาฟอลส์ห้องพัก พวกเขาพบฟอลส์กำลังเมายาและเหล้า เมื่อไวซ์ได้รับการปล่อยตัว สื่อมวลชนที่รออยู่ด้านหน้าสถานีก็เข้ามารุมล้อมเขา ไวซ์กลับมายังห้องพักที่มีตำรวจเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง วันถัดมาคืองานศพโรเบิร์ท ไวซ์สวมเครื่องแบบตำรวจตัวเก่าของโรเบิร์ทแล้วแอบหนีออกมาจากห้องพักโดยไม่มีใครสังเกตเพื่อตามไปฆ่าแบรนต์ที่งานศพ เมื่อแบรนต์ออกจากงาน ไวซ์ก็ตามออกไปที่ลานจอดรถลานเดิม ไวซ์เข้าทำร้ายแบรนต์ แต่ก็ต้องตกใจที่กลายเป็นแนชปลอมตัวมา ขณะกำลังสับสน แบรนต์ก็โผล่เข้ามาซดไวซ์ไม่ยั้งจากด้านหลัง แต่ไวซ์กลับหัวเราะแล้วบอกว่าเขาจะฟองตำรวจทุกคนข้อหาทำร้ายร่างกายและเขาจะรวย แบรนต์ยกอาวุธของไวซ์ขึ้นด้วยท่าทีเลือดเย็นและบอกว่าคนจะเข้าใจผิดคิดว่าไวซ์เป็นเหยื่อตำรวจอีกรายหนึ่ง ของบลิตซ์ เพราะเขาใส่เครื่องแบบของโรเบิร์ทอยู่ จากนั้นก็ยิงหัวไวซ์จนตาย แผนการแก้แค้นอีกยกหนึ่งของแบรนต์มีเป้าหมายคือดันลอป…