Jingle Jangle: A Christmas Journey เนื้อเรื่องน่าจะอยู่ในช่วงราว ต้นศตวรรษที่ 20 เป็นเรื่องราวของนักสร้างของเล่นผู้ยิ่งใหญ่ชื่อว่า เจโลนิคัส จังเกิล ของเล่นแต่ละชิ้นของเขานั้นสร้างความมหัศจรรย์และความสุขให้กับทุกคนในเมือง ของเล่นแต่ละชิ้นของเขานั้นมหัศจรรย์ราวกับว่ามันมีชีวิต ทุกครั้งที่เขาประดิษฐ์ของเล่นเขาก็จะเขียนสูตรการผลิตเอาไว้ในหนังสือเล่มใหญ่ของเขาเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาสามารถเขียนสูตรการผลิตไว้ในอากาศและมองเห็นสูตรนั้นแต่เพียงผู้เดียว ร้านขายของเล่นของเขาเป็นที่นิยมของทุกคน และในช่วงเทศกาลคริสต์มาสทุกคนก็ต่างมาซื้อของเล่นของเขาด้วยกันทั้งสิ้น
เจโลนิคัส มีภรรยาสาวแสนสวยที่รักกันมาก และมีลูกสาวแสนน่ารัก ที่ฝันว่าจะโตขึ้น เธอจะเป็นนักประดิษฐ์ของเล่นที่ยิ่งใหญ่เหมือนพ่อให้ได้ ส่วนในร้านขายของเล่นนั้นเขายังมีลูกน้องอีก 1 คนชื่อว่ากุสตาฟสัน ที่ฝันว่าจะเป็นนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน
กุสตาฟสัน มักจะประดิษฐ์สิ่งของต่างๆออกมาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์กลไกบางอย่างที่เขาผลิตได้ แต่โชคร้ายที่เจโลนิคัส ไม่มีเวลาสอนเขาเลย
วันหนึ่ง เจโลนิคัส สามารถผลิตหุ่นยนต์ที่สามารถพูดคุยสนทนาและคิดเองได้ แต่หุ่นยนต์ตัวนี้เมื่อรู้ข่าวภายหลังว่าจะมีการผลิตหุ่นยนต์แบบนี้ออกมาอีกหลายตัว ก็เกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจ จึงพูดยุยงให้กุสตาฟสันหักหลังเจโลนิคัส โดยให้ขโมยสมุดจดสูตรทำของเล่น และทั้งสองก็ออกไปตั้งร้านของเล่นใหม่
เมื่อเจโลนิคัสไม่มีสมุดจดสูตรของเล่น รวมถึงหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ที่เขาคิดค้นได้มานั้นหายไปด้วยเขาก็เศร้าโศกแก่ใจ เวทมนตร์ที่เขาเคยมีก็กลับหายไป เขาไม่สามารถเขียนสูตรในอากาศได้อีกแล้ว ก็ไม่สามารถมองเห็นสูตรในอากาศได้อีกและ และเขาก็ไม่สามารถประดิษฐ์สิ่งของอะไรได้อีกแล้ว นานวันเข้าเขาก็ผสมกับหลายอย่างรุมเร้าเข้ามาในชีวิต ภรรยาที่รักของเขาก็จากไปก่อนวัยอันควร และที่เลวร้ายที่สุดคือลูกสาวที่เขารักมากที่สุดนั้นก็เดินหนีจากเขาไป เจโลนิคัส กลายเป็นคนหมดอาลัยตายอยาก จากร้านขายของเล่นที่ยิ่งใหญ่ก็กลายเป็นร้านรับจำนำสิ่งของ และซ่อมสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ
เวลาผ่านไปหลายสิบปี เจโลนิคัส กลายเป็นคนแก่ที่ไม่ยินดียินร้ายกับเหตุการณ์ใดทั้งสิ้น ไม่มีความสนุกเพลิดเพลินกับเทศกาลใดทั้งสิ้นแม้แต่เทศกาลคริสต์มาส และทำร้ายร้านของเล่นของเขากำลังจะถูกธนาคารยึด โดยที่ทางธนาคารได้ยื่นข้อแม้ว่าหาก เจโลนิคัส ไม่สามารถประดิษฐ์สิ่งของที่สร้างความมหัศจรรย์ได้ ร้านขายของเล่นแห่งนี้จะตกเป็นของธนาคาร
วันหนึ่ง ในช่วงก่อนคริสต์มาสเพียงไม่กี่วัน ลูกสาวของเจโลนิคัส ที่ย้ายหนีจากเขาไปหลายปีนั้นได้ส่งลูกสาวของเธอมาอยู่ที่ร้านขายของเล่นของเจโลนิคัส เธอชื่อเจอร์นี่ เป็นเด็กเป็นเด็กสาวที่สดใสฉลาดกว่าวัย และมีพรสวรรค์บางอย่างที่เจโลนิคัสเคยมีแต่มันหายไป
เจอร์นี่จะสามารถนำเวทย์มนต์และจิตวิญญาณนักประดิษฐ์ของเจโลนิคัสกลับมาได้หรือไม่ และจะสามารถช่วยเหลือร้านของเล่นมหัศจรรย์นี้ได้อย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง Netflix ครับ
Jingle Jangle: A Christmas Journey เป็นภาพยนตร์คริสต์มาสที่ดูแล้วมีความสุขมาก ๆ เป็นหนังแนวเพลงแฟนตาซี ที่เหมาะสมกับเทศกาลคริสต์มาสที่สุด ก่อนอื่นเลยต้องขอชื่นชม Production ทั้งหมดทำออกมาได้ดีมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทีมแต่งหน้า ทีมเสื้อผ้า ทีมฉาก ทีมการออกแบบทั้งหมด ทำออกมาได้ดีมาก มันมากจนผมคิดว่าน่าจะมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เลยก็เป็นไปได้
หนังมีวิธีการเล่าเรื่องที่ดี มีการใช้เทคนิคพิเศษและอะนิเมชั่นได้อย่างเหมาะสม ลงตัว และสวยงาม การเดินเรื่องการเล่าเรื่องก็ทำได้ดี ดูแล้วเพลิดเพลินไม่มีจุดไหนน่าเบื่อ
แต่ที่ดีงามมาก ๆ ก็คือเพลงที่ใช้ในเรื่องนั้นแต่ละเพลงทำได้ดีมาก แม้จะเป็นหนังโทนแนวย้อนยุค แต่เพลงทำออกมาได้มีความเป็นสมัยใหม่ น้ำเสียงของผู้ขับร้อง ท่วงทำนอง และเนื้อหาของเพลงก็ทำได้ดี แม้หนังจะความเป็นมิวสิคเคิลค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด
หากใครรับชมทาง Netflix บอกเลยว่าเขาใจดีมากที่มีพากย์ไทยให้รับชมด้วย และการพากย์เสียงไทยนั้นเป็นเสียงที่เกิดจากนักพากษ์มืออาชีพ ฟังแล้วไม่ขัดหูแน่นอน พอถึงในช่วงที่ตัวละครร้องเพลงนั้นทาง Netflix เขาก็ให้นักร้องไทย มาร้องเพลงประกอบให้ น้ำเสียงดีทีเดียวเลยแหละ เนื้อเพลงเป็นภาษาไทยก็มีเนื้อดีไม่แพ้ภาษาอังกฤษเลย
ดังนั้นเด็ก ๆ ที่รับชมก็สามารถรับรู้ถึงเรื่องราวต่าง ๆ และอารมณ์ต่างๆของตัวละครผ่านบทเพลงได้ ส่วนผู้ใหญ่ผมขอแนะนำให้ชมเปลี่ยนภาษาอังกฤษ เพราะจะได้ดื่มด่ำกับอรรถรสของเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่
และไม่ใช่แค่การร้องเพลงหรือเพลงประกอบที่ดีงาม ยังรวมถึงการออกแบบท่าเต้นประกอบด้วย ซึ่งถือว่ามีความดีงาม ทั้งเพลงท่าเต้นและการออกแบบต่าง ๆ นั้นถือว่าเป็นส่วนประกอบที่ดีมาก ๆ ของ Jingle Jangle: A Christmas Journey
เรื่องการแสดงนั้นหายห่วง เขาเอาดาราระดับออสการ์อย่าง Forest Whitaker มารับบทนำเลย ส่วนตัวประกอบทุกคนก็เล่นดีมาก ส่วนน้อง Madalen Mills ที่รับบทเป็น เจอร์นี่ เธอน่ารักสดใส และเหมาะสมกับหนังเรื่องนี้มาก ดูเธอแล้วทำให้โลกนี้สวยงามขึ้นมาทันทีทันใด
ส่วนสำคัญที่สุดก็คือหัวใจของเรื่อง แน่นอนว่าหาเป็นหนังคริสต์มาสก็ต้องพูดถึงหัวใจสำคัญของวันคริสต์มาส คือความสำคัญของครอบครัวและความสัมพันธ์ของตัวละคร เขาถ่ายทอดออกมาได้ดี
อีกเรื่องหนึ่งคือ คริสต์มาสเป็นเทศกาลของการให้ แต่หนังเรื่องนี้ไม่ใช่การให้ของขวัญ แต่เป็นเรื่องของการให้โอกาส และการให้อภัย ซึ่งการให้โอกาสและการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นก็คือการให้โอกาสและการให้อภัยตัวเองนั่นเอง
ซึ่งเป็นการตีความของทีมสร้างที่ค่อนข้างแตกต่างไปจากหนังขนบคริสต์มาสโดยทั่วไป ในจุดนี้ถือว่าเป็นจุดประเสริฐของ Jingle Jangle: A Christmas Journey เลยทีเดียว
กล่าวโดยสรุป Jingle Jangle: A Christmas Journey ดูแล้วมีความสุข fell good สุด ๆ สามารถขึ้นทำเนียบหนังที่ควรดูในช่วงคริสต์มาสได้เลย เพลงดี ปรัชญาของเรื่องดี แม้จะเป็นหนังคริสต์มาสที่สอนหรือบอกให้เราเชื่อ แต่ความเชื่อในหนังที่ต้องการบอกเรานั้นคือความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง ความเชื่อมั่นว่าเราทำได้ และความเชื่อมั่นในความรัก ที่ชอบมาก ๆ ก็คือแม้ว่าเราจะมีความสามารถมากแค่ไหน แม้ว่ามีใครจะมาชื่นชมเรามากเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าหากเราไม่เชื่อมั่นในตัวเองแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำก็จะไม่ประสบความสำเร็จ
