ภาคต่อที่ 3 ของต้นฉบับหนังแวมไพร์วัยรุ่นสุดคลาสสิคที่ครั้งนี้ได้เลือกให้นักล่าแวมไพร์อย่างเอ็ดการ์ ฟร๊อกรับบทเด่นในหนังภาคนี้แทนที่จะเป็นพล๊อตคู่พี่น้องที่ต้องต่อสู้กับแกงค์แวมไพร์วัยรุ่นสุดโหดเหมือนเช่น 2 ภาคที่ผ่านมา
เอ็ดการ์ ฟร็อก [Corey Feldman] นักล่าแวมไพร์มือฉมังที่ปัจจุบันกลายเป็นคนจิตตกเนื่องจากเรื่องราวในอดีตเมื่อ 5 ปีก่อนที่เค้าต้องสูญเสียน้องชายที่รักอย่าง อลัน [Jamison Newlander] ที่ถูกผีดิบดูดเลือดกัดในระหว่างภารกิจที่พวกเค้าออกตามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์และทำให้อลันกลายเป็นพวกแวมไพร์ไปในที่สุดและทางแก้เดียวก็คือพวกเอ็ดการ์ต้องฆ่าหัวหน้าสูงสุดของแวมไพร์ทั้งมวล และตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเอ็ดการ์พยายามออกตามหาตัวแวมไพร์สูงสุดแต่ไม่เคยพบร่องรอยใด ๆ จนเงินทองที่มีเริ่มหมดไปกับค่าใช้จ่ายมากมายในการล่าหัวหน้าสูงสุดของแวมไพร์จนทำให้บ้านที่เค้าอาศัยอยู่ในเมืองซานต้าคาร์ลาในรัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นบ้านเกิดของเค้ากำลังจะถูกยึดไป
วันหนึ่งก็มีสาวสวยสุดนามว่า เกว็น ลิเบอร์ [Tanit Phoenix] ซึ่งเป็นนักเขียนนิยายแวมไพร์โรแมนติกชื่อดังและรวยล้นฟ้าได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากเอ็ดการ์และว่าจ้างเค้าด้วยเงินก้อนโตให้ช่วยออกตามหาตัว ปีเตอร์ [Felix Mosse] น้องชายของเธอที่ถูก ดีเจเอ็กซ์ [Seb Castang] หัวหน้ากลุ่มแวมไพร์ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่าอัลฟาจับตัวไปและจุดประสงค์ที่ดีเจเอ็กซ์จับตัวปีเตอร์ไปก็เพื่อนำตัวไปเป็นเครื่องสังเวยบูชายันต์ในคืนพระจันทร์สีทอง นอกจากนี้แวมไพร์กลุ่มอัลฟานี้ยังผลิตยาเสพติดที่มีชื่อว่า เดอะเธิร์ส ซึ่งก็คือเลือดแวมไพร์ที่ถูกสกัดขึ้นมาเพื่อใช้ในการใช้เปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นกองทัพแวมไพร์ผีดูดเลือดและดูเหมือนการหายตัวไปของปีเตอร์จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และจากการสืบหาข้อมูลเชิงลึกของเอ็ดการ์ทำให้เชื่อว่าในกลุ่มอัลฟาอาจมีหัวหน้าแวมไพร์สูงสุดบงการอยู่ ทำให้เอ็ดการ์ตกลงรับงานนี้ทันทีพร้อมกับตั้งทีมเฉพาะกิจในภารกิจล่าแวมไพร์ครั้งนี้ ประกอบด้วย โซอี้ [Casey B. Dolan] พนักงานสาวร้านขายหนังสือที่เบื้องหลังเป็นผู้รอบรู้เรื่องต่าง ๆ ของกลุ่มแวมไพร์อัลฟ่าและ ลาร์ส วอนเกตซ์ [Steven van Niekerk] หนุ่มจอมพลังจากรายการเรียลลิตี้โชว์ชื่อดัง ในภาระกิจสุดอันตรายที่ต้องหยุดยั้งและโค่นกองทัพผีดูดเลือดและสังหารจอมแวมไพร์สูงสุดผู้บงการเบื้องหลัง
